องค์ใดกันแน่ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "พระเจ้าชู้"

พระเจ้าชู้ : วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร
เรื่องเล่าและพระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระพุทธรูปสำริดรักกระแหนะ - พระบรมราชา - พระพวย
๓ พระพุทธรูป กับเรื่องเล่าว่าเป็นพระเจ้าชู้

พระราชหัตเลขาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามกุฎราชกุมาร ถวายรายงานต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องสำทับว่าข่าวลือนี้เคยกระฉ่อนอยู่จริง ราวปีพุทธศักราช ๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘)
ทรงเล่าว่า "เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๕ พฤษภาคม ร.ศ.๑๒๘ เวลาบ่ายได้ขับรถไปตามถนนรอบกำแพงเมือง ไปนั่งมุขพระธรรมศาลา ในวัดพระบรมธาตุ ดูแห่พระพุทธรูป ซึ่งเรียกว่าพระบรมราชา พระนั้นได้เชิญขึ้นบุษบกวางบนตะเค่ให้คนฉุดมา คนที่ฉุดนั้นไม่ใช่แต่เฉพาะชายฉกรรจ์ ทั้งคนชรา เด็ก และผู้หญิงก็ช่วยกันฉุดด้วยเพื่อเอาบุญ เดิมพระองค์นี้ฝังอยู่ในกลางทุ่ง มีผู้ไปขุดพบเข้า จึงเอาไปประดิษฐานไว้ที่วัดนอกเมือง พระองค์นี้มีชื่อเสียงว่าปฏิบัติสับประดนต่างๆ มีขึ้นล่วงเรือนเขาบ้าง ขึ้นหาลูกสาวเขาบ้าง ตามเรื่องว่าไล่กันมาถึงวัด เห็นผู้ร้ายหายเข้าไปในพระวิหารพระบรมราชา ผู้ที่ไล่วิ่งตามเข้าไปยังได้เห็นโคลนเปื้อนพระบาทอยู่ ถึงกับล่ามโซ่ไว้ ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ จึงจับตัวผู้ร้ายได้ เรื่องราวก็จบลง แต่ที่แลไม่เห็นนั้น คือเหตุไฉนจึงอุสาหะมีคนเชื่อได้ ดูไม่น่าเชื่อเลยว่าพระพุทธรูปจะเที่ยวเล่นซุกซนได้เช่นนั้น ฝ่ายเจ้าผู้เป็นต้นคิด ซัดพระพุทธรูปขึ้นด้วยนั้น ก็ควรจะยอมรับว่ามันช่างรู้อัทยาไศรยของเพื่อนกันดีจริงๆ"
พระราชหัตเลขาฉบับนี้ สามารถแก้ความกังขาเรื่อง "พระเจ้าชู้" ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่ หรือ แต่งขึ้นเมื่อใด แม้ว่าข่าวลือนี้จะถูกพิสูจน์ในสมัยนั้นแล้วว่าเป็นความที่กุแต่งขึ้น แต่ก็ปฏิเสธแง่งามแห่งความแปลกพิศดารของผู้ร้ายที่ซัดทอดพระพุทธรูปได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียไม่ได้ 
ปัจจุบันพบว่า มีการกล่าวถึงเรื่องนี้ในลักษณะของความเชื่อ บ้างว่าเป็นเรื่องจริงที่พระพุทธรูปแปลงกายเป็นชายหนุ่มขึ้นหาสาวกำพร้าในยามวิกาล ครั้นหลายครั้งเข้าก็มีคนไปเฝ้าเพื่อดักจับ รุ่งยังไม่ทันสางเมื่อเจอตัวก็ใช้มีดฟัน ชายหนุ่มพระพุทธรูปแปลงนั้นใช้มือรับ ทำให้แขนขาดแล้วยังเดินต่อจนหายวับเข้าไปในวัดพระมหาธาตุ เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่เสริมเติมแต่งขึ้นหลังจากที่เห็นความผุกร่อนตามธรรมชาติของพระพุทธรูปสำริดกระแหนะรัก ประมาณว่าอาศัยรูปลักษณ์ของพระพุทธรูปที่แตกต่างไปจากกลุ่ม อนุมานเรื่องราวเสริมขึ้นเพื่อให้ชวนคล้อยตามเสียมากกว่า หรือไม่ก็เพราะเคยได้ยินผู้เฒ่ามีแก่พูดถึง "พระเจ้าชู้ขึ้นบ้านคน" ที่เหลือก็เติมแต่ง ทั้งการระบุองค์พระพุทธรูปและการเรียงร้อยเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องเดิมมีเค้าโครงเดียวกัน จะสนุกสนานก็ตอนที่เหยาะน้ำจิ้มชวนเชื่อ จึงพาให้มีความลังเลว่า

๑.) เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ : สรุปตามหลักฐานที่พบว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นการกุเรื่องหาแพะขึ้น คือเป็นเรื่องโกหกแต่งขึ้นเพื่อหาแพะรับบาปที่ไม่สามารถอุทรณ์เป็นคำพูดใดๆ ได้ของโจรหัวใส ในปลายรัชกาลที่ ๕ (พ.ศ.๒๔๕๒)

๒.) พระพุทธรูปองค์ใดกันแน่ที่ตกอยู่ในสถานะแพะ 
พระพุทธรูปทรงเครื่องน้อยสำริดกระแหนะรัก ในวิหารทับเกษตร 

พระพวยในวิหารโพธิ์ลังกา
ทั้งนี้ หากอ้างอิงตามหลักฐานว่าเป็น "พระบรมราชา" ยืนตามพระราชหัตถเลขาฉบับที่อ้างถึง ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ยังคงประดิษฐานอยู่ในวิหารโพธิ์ลังกาด้านทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออก เป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัยทรงเครื่องน้อย ทรงตุ้ม ทรงเทริด ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย

พระบรมราชา ภายในพิพิธภัณฑ์วิหารโพธิ์ลังกา

ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระพุทธรูป "พระบรมราชา" องค์นี้ ทั้งนามที่พ้องกับพรปรมาภิไธยของพระบรมราชาที่ ๔ หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แน่นอนว่าต้องมีความเชื่อมโยงกับการเสด็จมาสู่เมืองนครศรีธรรมราชของพระองค์เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๑๒ รวมถึงการเชิญพระไตรปิฎกที่วัดหอไตร (วัดที่ประดิษฐานพระบรมราชาอยู่แต่เดิม) เป็นแม่นมั่น ซึ่งจะได้เรียบเรียงให้ได้ติดตามกันต่อไป

วันพระ สืบสกุลจินดา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

น้ำศักดิ์สิทธิ์เมืองนครศรีธรรมราช

โขนละคอน วังนครศรีธรรมราช