บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2017

องค์ใดกันแน่ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "พระเจ้าชู้"

รูปภาพ
พระเจ้าชู้ : วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เรื่องเล่าและพระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระพุทธรูปสำริดรักกระแหนะ - พระบรมราชา - พระพวย ๓ พระพุทธรูป กับเรื่องเล่าว่าเป็นพระเจ้าชู้ พระราชหัตเลขาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามกุฎราชกุมาร ถวายรายงานต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องสำทับว่าข่าวลือนี้เคยกระฉ่อนอยู่จริง ราวปีพุทธศักราช ๒๔๕๒ (ร.ศ.๑๒๘) ทรงเล่าว่า "เมื่อวันอังคาร ที่ ๒๕ พฤษภาคม ร.ศ.๑๒๘ เวลาบ่ายได้ขับรถไปตามถนนรอบกำแพงเมือง ไปนั่งมุขพระธรรมศาลา ในวัดพระบรมธาตุ ดูแห่พระพุทธรูป ซึ่งเรียกว่าพระบรมราชา พระนั้นได้เชิญขึ้นบุษบกวางบนตะเค่ให้คนฉุดมา คนที่ฉุดนั้นไม่ใช่แต่เฉพาะชายฉกรรจ์ ทั้งคนชรา เด็ก และผู้หญิงก็ช่วยกันฉุดด้วยเพื่อเอาบุญ เดิมพระองค์นี้ฝังอยู่ในกลางทุ่ง มีผู้ไปขุดพบเข้า จึงเอาไปประดิษฐานไว้ที่วัดนอกเมือง พระองค์นี้มีชื่อเสียงว่าปฏิบัติสับประดนต่างๆ มีขึ้นล่วงเรือนเขาบ้าง ขึ้นหาลูกสาวเขาบ้าง ตามเรื่องว่าไล่กันมาถึงวัด เห็นผู้ร้ายหายเข้าไปใ...

"พระธรรมรูจี" วิหารหลังสุดท้ายที่เพิ่งหายไปจากพระธาตุเมืองนคร

รูปภาพ
"พระธรรมรูจี" วิหารหลังสุดท้ายที่เพิ่งหายไปจากพระธาตุเมืองนคร "พระธรรมรูจี ต่อพระระเบียงด้านตะวันตก  ทำแล้วยาว ๖ วา กว้าง ๑ วา ๓ ศอก สูง ๓ วา ๔ ห้อง พระพุทธรูป ๘ องค์ ๑ หลัง"  ข้อความในใบบอกของพระยาสุขุมนัยวินิต ข้าหลวงเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลนครศรีธรรมราช เรื่อง ส่งรายงาน ศก ๑๑๖ ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ร.ศ.๑๑๗ กราบทูลพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย (พระยศในขณะนั้น) บทความที่อ้างถึง ได้มีการระบุตำแหน่งที่ตั้ง ขนาด และโบราณวัตถุภายในของ "พระธรรมรูจี" ไว้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวิเคราะห์หาคำตอบของที่ตั้งในปัจจุบันได้ง่ายขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอกสารดังกล่าว ได้กล่าวยกรายการปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซมศาสนสถานเป็นข้อๆ  ในข้อที่ ๔ ระบุว่า "พระธรรมศาลา เป็นมุขต่อพระระเบียงด้านตะวันออกพระบรมธาตุ"  ในข้อที่ ๕ ระบุว่า "พระธรรมรูจี ต่อพระระเบียงด้านตะวันตก"  ฉะนั้นเมื่อพิจารณาที่ตั้งตามที่บทความระบุถึง และเทียบกันในทิศตรงกันข้ามกับวิหารพระธรรมศาลาในปัจจุบัน ก็จะพบคำตอบว่า ที่ตั้งของวิหารพ...

พระธาตุไร้เงา อัศจรรย์หรือเพียงแค่ “คำคนโฉดเขลา เล่าลือกันไป”

รูปภาพ
พระธาตุไร้เงา อัศจรรย์หรือเพียงแค่ “คำคนโฉดเขลา เล่าลือกันไป” “...แต่ก่อนนั่งฟังเล่นแต่ค ำกล่าว เขาพูดจายักเยื้องเป็นเรื่อ งราว ว่าครั้งคราวเมืองแตกสาแหรก กระจาย ทรงพระปาฏิหาริย์บันดาลเหตุ อาเพศให้เห็นซึ่งพระฉาย ถ้าอยู่ดีมิได้เห็นเป็นอันต ราย เงานั้นหายไม่ได้เห็นเป็นธร รมดา…” นายแก้ว กรมพระคลังสวน แต่งนิราศนครศรีธรรมราชในคร าวตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระจ อมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองฝ่ายทะเ ลตะวันตก เมื่อพุทธศักราช ๒๔๐๒ ความตอนหนึ่งตามที่ยกมาข้าง ต้น กล่าวถึง “คำกล่าว” ว่าด้วย “เรื่องราว” เกี่ยวกับเงาขององค์พระบรมธ าตุเจดีย์ เมืองนครศรีธรรมราช มีใจความสำคัญว่า หากบ้านเมืองปกตินั้น จะไร้เงาพระธาตุเจ้า ทว่าปรากฏเงาขึ้นเมื่อใด เป็นสัญญาณหมายว่ากำลังจะเก ิด “อาเพศ” ต่อบ้านเมืองขึ้นไม่ทางใดก็ ทางหนึ่ง เช่นว่า ศึกสงคราม โรคระบาด หรือภัยธรรมชาติ เป็นต้น ความเชื่อของคนพื้นถิ่นเกี่ ยวกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เมืองนครศรีธรรมราชนั้น มีอยู่มาก อาทิ กา ๔ ฝูง ทำหน้าที่พิทักษ์รักษายังทิ ศทั้ง ๔, ศิลาจารึกอักษรปลวะ ภาษาทมิฬ ในวิหารโพธิ์ลังกา ผู้ใดอ่านได้ไปตลอด จะปลุกตื่นยักษ์และครุฑเชิง บันใดพ...